ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ในสวนของปู่มังคุดเริ่มสุก เก็บกินได้อย่างมั่นใจ ปลอดสารเคมีใดๆ รสชาติอร่อย หวาน กรอบ แต่ผลจะเป็นสนิม และ ยางสีเหลืองมาก
เมื่อมันเริ่มสุกอย่างนี้ จะไม่ดก แต่รสชาติดี เพราะก่อนหน้านี้แล้งจัด ฝนไม่ตกหลายเดือน ผลไม้จะมีรสชาติหวาน เช่น กล้วย ฝรั่ง เป็นต้น
ผลไม้ในสวน ปู่จะไม่ขาย เก็บไว้กินเอง ปู่บอกว่า ควรเก็บเว้นช่วง 2 วันครั้ง เพราะของเรามีแค่ 5 ต้นเอง ไม่พอขาย
เราเคยกินมังคุดระยองหลายครั้ง จึงมีความคิดส่งให้เพื่อนบ้านเรียนหนุมาน ลองชิมบ้าง
น้องอัยย์อาสาฉอยเอง ด้วยไม้สำหรับฉอยมังคุด ชาวบ้านท้องถิ่นทางใต้ เรียกว่า ไม้จำปา ลักษณะเป็นง้าม
แต่น้องอัยย์เก็บได้แค่ 3-4 ลูกเท่านั้น เพราะ เมื่อยคอ และไม่มันสนุกเหมือนเล่นกับเพื่อนๆ
UPDATE:
น้องอัยย์เก็บมังคุดเกือบสิบสองครั้ง ผมเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น เรื่อยๆ มีความชำนาญ สายตาดี แยกแยะผลสุกมาก สุกน้อย และยังไม่สุกได้ดี มีความคล่องตัวกว่าพ่อ ลองปืนต้นมังคุดก็เก่งขึ้นไม่กลัว
ที่สำคัญ มีความสนุกกับการเก็บมังคุด แม้ไม่กินเองก็แบ่งปันให้ พี่โอ๊ต น้องเก้า และเพื่อนบ้านได้
เมื่อเก็บรวบรวมได้จำนวนหนึ่ง วันรุ่งขึ้น ก็ไปส่งให้น้องจ๊ะ ทางไปรษณีย์ ด่วนพิเศษ EMS.
แม้น้องอัยไม่ชอบเขียนหนังสือ แต่พยายามจนเสร็จใช้เวลาเขียนประมาณ ยี่สิบนาที น้องอัยมีความอดทนน้อย จึงต้องกระตุ้นอยู่เสมอ ชอบวาดรูปมากกว่าเขียนหนังสือ
ผมคิดว่า ทักษะจากเรียนรู้ของเด็ก ไม่ใช่ทำครั้งเดียวผ่าน ต้องทำหลายครั้ง
สิ่งที่ทำในวันนี้ อาจจะเป็นพื้นฐานที่ดีในอนาคต เช่น
- อาชีพรับจ้างเก็บมังคุด ค่าแรงกิโลกรัมละ 8 บาท อาจจะเป็นรายได้เสริมที่ดี
- ขายของทางไปรษณีย์ – การเรียนรู้จัดส่งของ อาจจะเป็นพื้นฐานหนึ่งการอาชีพขายของออนไลน์ได้ดี
ผมคิดว่า งานที่ดี คือ งานที่มีความสุข ลองจินตนาการ อาชีพเสริมอย่างรับจ้างเก็บมังคุด มีข้อดีอย่างไร งานใช้แรงกาย ทุกอย่างมีข้อดี คือ การขยับตัว ย่อมทำให้ร่างกายแข็งแรง แม้รายได้อาจจะน้อยกว่า งานขายของออนไลน์ ซึ่งคงเครียดกว่า ใช่ไหมครับ